บันทึกอนุทินครั้งที่
2
วิชา
การจัดประสบการศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
เวลาเรียน
วันอังคาร เวลา15:00
– 17:30 น.
วันพฤหัสบดี
เวลา 15:00
– 16:40 น.
ครูผู้สอน
อ.กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
ความรู้ที่ได้รับ
เรียนวันที่ 20 ม.ค.2558
การจัดประสบการณ์ความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
-ศิลปะคือ
งานช่างฝีมือเป็นงานที่มนุษย์ใช้สติปัญญาสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความประณีต
วิจิตบรรจง ฉะนั้น งานศิลปะจึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เป็นผลงานที่มนุษย์สร้างขึ้นมาใหม่
-ศิลปะคือ
ความงาม (ทางกาย ทางใจ) รูปทรง
การแสดงออก
ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความงามและความพึงพอใจ
-ศิลปะคือ
-Art หมายถึง มาจากภาษาลาดิน ว่า Ars ทักษะ หรือความชำนาญ หรือความสามารถพิเศษ
-ศิลปะในภาษาไทย มาจากภาษาสันสกฤษว่า ศิลปะ
-ภาษาบาลีว่าลิปป มีความหมายว่า
ฝีมืออันยอดเยี่ยม
ปรัชญาศิลปศึกษา
-มุ่งสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์
-เป็นเครื่องมือในการแสดงออก
และใช้ความคิดสร้างสรรค์
-ให้ความสำคัญกับกระบวนการสร้างสรรค์งาน
-เน้นความไวในการรับรู้อารมณ์
ความคิดจากสิ่งที่มองเห็น
-ความรู้สึกที่มีอยู่เบื้องหลังผลงาน
-สนับสนุนให้เรียนรู้ ด้วยการค้นคว้า
ทดลองสิ่งใหม่ๆ
-นำไปพัฒนาชีวิตด้านอื่นๆได้
ความสำคัญของศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
-ตอบสนองความต้องการของเด็กปฐมวัย
-ชอบวาดรูป ขีดๆ เขียนๆ
-เด็กมีความคิด จินตนาการ
-เด็กถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด
ที่บางครั้งไม่อาจพูดหรืออธิบายได้
-เด็กต้องการ การสนับสนุนของผู้ใหญ่
-เด็กต้องการกำลังใจ การสร้างความเชื่อมั่น และความภาคภูมิใจ
ความสำคัญของการจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
-เป็นพื้นฐานทางการศึกษาที่สำคัญสำหรับเด็กปฐมวัยด้านร่างกาย
อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
-ช่วยจัดสรรประสบการณ์ที่มีผลต่อการเรียนรู้ให้กว้างมากขึ้น
ช่วยพัฒนาเด็กเป็นรายบุคคล
-ช่วยส่งเสริม /
กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับศิลปะสร้างสรรค์
ทฤษฏีพัฒนาการ
-พัฒนาการทางศิลปะของโลเวนเฟลด์
ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์
-ทฤษฏีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด Guilford
นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ศึกษาเกี่ยวกับการวิเคราะห์ของสติปัญญา
-เน้นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ -ความมีเหตุผล -การแก้ปัญหา
ความสามารถของสมอง แบ่งออกเป็น 3 มิติ
มิติที่ 1 เนื้อหา
เกี่ยวกับข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อที่เป็นการคิด
สองรับข้อมูลเข้าไปคิดพิจารณา 4 ลักษณะ ภาพ
สัญลักษณ์ ภาษา พฤติกรรม
มิติที่ 2 วิธีการคิด
แสดงถึงลักษณะการทำงานของสมองใน 5 ลักษณะ
-การรู้จัก การเข้าใจ -การจำ
-การคิดแบบอเนกนัย -การคิดแบบเอกนัย -การประเมินค่า
มิติที่ 3 ผลของการคิด
แสดงถึงผลที่ได้จากการทำงานของสมองจากมิติที่
1 และมิติที่ 2
มี 6 ลักษณะ หน่วย จำพวก ความสัมพันธ์ ระบบ การแปลงรูป การประยุกต์
สรุป เป็นทฤษฏีเกี่ยวกับโครงสร้างทางสติปัญญา ทำให้ทราบถึงความสามารถของสมองที่แตกต่างกันถึง
120 ความสามารถตามแบบจำลองโครงสร้างทางสติปัญญาในลักษณะ 3 มิติ คือ เนื้อหา 4 มิติ วิธีการคิด 5 มิติ และผลทางการคิด 6 มิติ
รวมความสามารถท่างความคิดสร้างสรรค์ด้วย คือ วิธีคิดแบบอเนกนัย เป็นการคิดหลายทิศทาง หลายแง่มุม คิดได้กว้าง ซึ่งลักษณะการคิดนี้
จะนำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งที่แปลกใหม่
-ทฤษฏีความคิดสร้างสรรค์ของทอร์แรนซ์ Torrance
นักจิตวิทยา และนักการศึกษาชาวอเมริกัน
เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ว่า
-ความคล่องแคล่วในการคิด -ความยืดหยุ่นในการคิด -ความริเริ่มในการคิด
แบ่งลำดับความคิดสร้างสรรค์ เป็น 5 ขั้น
ขั้นการค้นพบความจริง เป็นขั้นเริ่มต้น ค้นพบสาเหตุ
ขั้นการค้นพบปัญหา เป็นขั้นที่สามารถคิดได้และเกิดความเข้าใจปัญหา
ขั้นการตั้งสมมติฐาน พยายามแก้ไขปัญหา หาทางออกโดยการตั้งสมมติฐาน
ขั้นการค้นพบคำตอบ เป็นการทดลองสมมติฐาน
เพื่อหาคำตอบ
ขั้นตอบรับผลจากการค้นพบ ทดสอบสมมติฐานและสรุปสมมติฐาน เพื่อการแก้ปัญหาหรือทางออกที่ดีที่สุด
สรุป
เป็นกระบวนการของความรู้สึกไวต่อปัญหา หรือสิ่งที่ขาดหายไป แล้วเกิดความพยายามในการสร้างแนวคิด
ตั้งสมมติฐาน ทดสอบสมติฐาน
และเผยแพร่ผลที่ได้ให้ผู้อื่นรับรู้
ขั้นความคิดสร้างสรรค์นี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับขั้นการแก้ปัญหา ทางวิทยาศาสตร์
จึงเรียกว่า กระบวนการแก้ปัญหาอย่าสร้างสรรค์
-ทฤษฏีความรู้สองลักษณะ (สมอง สองซีก)
เป็นทฤษฏีที่ได้รับความสนใจ
เกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์
การทำงานของสมองสองซีก ต่างกัน
สมองซีกซ้าย ทำงานส่วนความคิดที่เป็นเหตุผล
สมองซีกขวา ทำงานส่วนจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ทฤษฏีการคิดสองลักษณะ
แพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี กล่าวว่า
คนเรามีสมอง 2 ซีก
สมองซีกขวา
ซึ่งเป็นส่วนของจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาได้มากในช่วง 4-7 ปี
สมองซีกซ้าย
เป็นส่วนของความคิดที่มีเหตุผล พัฒนาในช่วง 9-12 ปี เจริญเติบโตช่วง 11-13 ปี
แนวคิดเกี่ยวกับสมองสองซีกได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์และพัฒนาการจัดการศึกษา คือ
ผู้เรียนได้เรียนรู้และทำกิจกรรมแบบบูรณาการ มีการเรียนรูแบบวัฏจักรการเรียนรู้
หรือ 4
MAT และมีการทำกิจกรรมที่หลากหลาย
-ทฤษฏีพหุปัญญาของการ์ดเนอร์ Gardner
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาการศึกษา
ชาวอเมริกัน ศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายของสติปัญญา ผู้คิดค้นทฤษฏีพหุปัญญา
ทฤษฏีพหุปัญญาจำแนกความสามารถเอาไว้ 9 ด้าน ได้แก่ ความสามารถด้านภาษา ความสามารถด้านดนตรี ความสามารรถด้านกีฬาและการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ความสามารถด้านมนุษย์สัมพันธ์ ความสามารถด้าธรรมชาติศึกษา ความสามารถในการคิดพลิกแพลง
ความสามารถด้านตรรกะวิทยาและคณิตศาสตร์ ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ ความสามารถด้านจิตวิเคราะห์
ลักษณะสำคัญของทฤษฏีพหุปัญญา
ปัญญามีลักษณะเฉพาะด้าน ทุกคนมีปัญญาแต่ละด้าน ทั้ง 9
ด้านมากน้อยแตกต่างกัน และสามารถพัฒนาให้สูลขึ้นได้
และปัญญาต่างๆสามารถทำงานร่วมกันได้ และมีความหลากหลาย
-ทฤษฏีโอศา
Auto
เดวิส Davis และ ซัลลิแวน Sullivan
ความคิดสร้างสรรค์นั้นมีอยู่ในมนุษย์ทุกคน
และสามารถพัฒนาได้ การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ตามรูปแบบโอศา มีลำดับการพัฒนา 4 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 ความคิดตระหนัก
การพัฒนาปรีชาญาณ
การรู้จักและเข้าใจตนเอง การมีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์ มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
ขั้นตอนที่ 2 ความเข้าใจ
มีความรู้เนื้อหาในเรื่องบุคลิกภาพ
เทคนิควิธีการความคิดสร้างสรรค์
ขั้นตอนที่ 3 เทคนิควิธี
การระดมสมอง การคิดเชิงเปรียบเทียบ
การฝึกจินตนาการ เทคนิคในการฝึกความคิด
ขั้นตอนที่ 4
การตระหนักในความจริงของสิ่งต่างๆ
เปิดกว้างรับประสบการณ์ต่างๆมีความคิดริเริ่มและผลิตผลงานด้วยตนเอง
พัฒนาการทางศิลปะ
เคลล็อก Kellogg
ศึกษางานขีดๆเขียนๆของเด็กปฐมวัยและจำแนกได้เป็น 4
ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 ขั้นขีดเขี่ย Placement
Stage เด็กวัย 2 ขวบ
ขีดๆเขียนๆตามธรรมชาติ
เป็นเส้นตรงบ้างโค้งบ้าง โดยปราศาจากการควบคุม
ขั้นที่ 2
ขั้นเขียนเป็นรูปร่าง Shape Stage เด็กวัย 3
ขวบ
ขีดๆเขียนเป็นรูปร่างมากขึ้น
เขียนวงกลมได้ ควบคุมมือกับตาให้สัมพันธ์กันมากขึ้น
ขั้นที่ 3 ขั้นรู้จักออกแบบ Design Stage
เด็กวัย 4 ขวบ
ขีดๆเขียนๆที่เป็นรูปร่างเข้าด้วยกัน
วาดโรงเส้นหรือวาดสี่เหลี่ยมได้
ขั้นที่ 4
ขั้นการวาดแสดงเป็นภาพ Pictorial
Staga เด็กวัย 5 ขวบขึ้นไป
เริ่มแยกแยะวัสดุที่เหมือนกันได้
รับรู้ความเป็นจริง ควบคุมการขีดเขียนได้ วาดสามเหลี่ยมได้
พัฒนาการด้านร่างกาย
กีเซลล์และคอร์บีน สรุปพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเด็กปฐมวัยตามลักษณะพฤติกรรมทางการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก
ด้านการตัด
อายุ 3-4 ปี ตัดกระดาษเป็นชิ้นส่วนเล็กได้
อายุ 4-5 ปี ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้
อายุ 5-6 ปี ตัดกระดาษตามเส้นโค้งหรือรูปต่างๆได้
การขีดเขียน
อายุ 3-4 ปี เขียนรูปวงกลมตามแบบได้
อายุ 4-5 ปี เขียนรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสตามแบบได้
อายุ 5-6 ปี เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
การพับ
อายุ 3-4 ปี พับและพับสันกระดาษสองทบตามแบบได้
อายุ 4-5 ปี พับและพับสันกระดาษสามทบตามแบบได้
อายุ 5-6 ปี พับและพับสันกระดาษได้คล่องแคล่ว
การวาด
อายุ 3-4 ปี วาดภาพคนได้
อายุ 4-5 ปี วาดส่วนประกอบต่างๆของคนได้
อายุ 5-6 ปี วาดเป็นมิติได้
เรียน 22 ม.ค. 2558
ทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
โดยการวาดมือของตนเองใส่ลงในกระดาษให้วาดตั้งแต่ 1 ภาพขึ้นไป
เวลาระบายสี ระบายสีของเส้นตัด โดยที่สีห้ามซ้ำกัน
ระบายสีทั้งภายนอกมือและภาพในมือ
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
-การนำความรู้ไปศึกษา
เพื่อเพิ่มพูนความรู้ที่มีให้มากขึ้นและนำไปปรับใช้ในการสอนศิลปะสร้างสรรค์กับเด็กปฐมวัย
-การให้เด็กได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์
โดยการที่เด็กได้ใช้ร่างกายของตนเองเป็นส่วนประกอบของภาพเด็กจะมีความรู้สึกประทับใจในผลงานของตนเองและรู้สึกว่าผลงานของตนเองมีคุณค่า
-การให้เด็กได้ระบายสีภาพที่วาดด้วยเองเองโดยที่ครูปล่อยให้เด็กได้ใช้จินตนาการของตนเอง
เด็กจะเกิดความเป็นอิสระ
-การที่ครูเดินดูเด็กทำกิจกรรมสร้างสรรค์นั้นจะทำให้เด็กอุ่นใจ
เมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือเด็กก็จะเจอครูอยู่ข้างๆ
การประเมินการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง
-เข้าเรียนตรงต่อเวลา
แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจเรียนและศึกษาทั้งในชีสที่ครูแจกและการอธิบายหน้าชั้นเรียนของครู และทำกิจกรรมในวันพฤหัสได้เป็นอย่างดี
ทั้งการวาดภาพระบาย และการนำเสนอภาพที่วาดได้เป็นอย่างดี
ประเมินเพื่อน
-เข้าเรียนตรงต่อเวลา
แต่งกายสุภาเรียบร้อย มีความตั้งใจเรียนและฟังขณะที่ครูบรรยาย
อาจจะมีพูดกันบ้างเล็กน้อยเป็นบางครั้ง เพื่อนๆทำกิจกรรมวาดภาพและระบายสีได้สวยงามทุกคน
และมีความสุขในการทำกิจกรรม
ประเมินครูผู้สอน
-เข้าสอนตรงต่อเวลา
แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีความพร้อมที่จะสอนเด็ก พูดจาชัดเจนทำให้นักศึกษาเข้าใจได้เป็นอย่างดี
อธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมให้นักศึกษาได้เข้าใจ และสำหรับกิจกรรมวาดภาพระบายสี
ครูก็มีการแนะนำแนวทางในการทำกิจกรรมได้เป็นอย่างดี